พานพบยามหลบร้อน (ฤดูร้อน2015)
ความรักอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คุณคิดไว้
ผู้เข้าชมรวม
105
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าเรื่องนี้เป็นนิยายรักที่ผมแต่งขึ้นมาเป็นครั้งแรก
เนื่องจากตอนแรกที่เห็นเรื่องการประกวด ไม่กะแต่งแนวรักและเดิมทีก็ไม่ได้อ่านนิยายแนวรักมากเท่าไร่ แต่วันหนึ่งพล็อตเรื่องนี้ดันแวบเข้ามาในหัว เลยจับมันมาเขียนซะเลย(ฮา) เพราะงั้นศัพท์อาจจะยังไม่ได้อารมณ์บวกกับเนื้อเรื่องอาจจะเรียบไปและสื่อถึงผู้อ่านได้ไม่หมด ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ และสามารถติชมไว้ด้านล่างได้นะครับ ผมจะนำไปปรับปรุง
ถ้าถามว่าทำไมถึงจัดอยู่ในหมวดอื่นๆ รักหวานแหววก็ไม่น่าใช่ รักบริสุทธิ์ก็มีอยู่ละนะ สับสนอยู่อย่างนี้จนใส่ในหมวดอื่นๆตัดปัญหาไปเลย(ฮา)
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สายลมยามบ่ายพัดเอาใบไม้สีเขียวสดล่องลอยไปทั่วบริเวณ แสงแดดฤดูร้อนยังร้อนแรงเช่นเดียวกับปีก่อน แต่ครั้งนี้เมฆก้อนใหญ่จับกลุ่มกันบดบังดวงตะวัน ทำให้อากาศอบอุ่นกำลังดี นับเป็นอีกหนึ่งวันที่ควรค่าแก่การออกมาสัมผัสอากาศข้างนอก
หญิงสาวในชุดลำลองสีฟ้านั่งโต๊ะไม้ข้างนอกร้านกาแฟ ซึ่งอยู่ตั้งอยู่ภายในรีสอร์ทเล็กๆแห่งหนึ่ง หน้าตาน่ารักบวกกับรูปร่างเพรียวบางของเธอไม่แพ้นางแบบแม้แต่น้อย ผมสีดำยาวพลิ้วไปตามสายลมอ่อนๆ นัยน์ตากลมโตจดจ้องไปยังถ้วยกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง บรรยากาศเงียบงันรอบตัวไม่ได้ส่งผลด้านลบแต่อย่างใด กลับส่งเสริมความงามในตัวเธอออกมาอย่างน่าประหลาด
เธอยกถ้วยสีขาวขึ้นช้าๆ ให้ปลายนิ้วขนาดเล็กทั้งสี่ได้สัมผัสกับความอุ่น รวมถึงกลิ่นไอหอมกรุ่นจากผิวกาแฟลาเต้ เธอดื่มเข้าไปหนึ่งอึกก่อนวางลงบนโต๊ะ แล้วถอนหายใจ
“กลุ้มอะไรอยู่หรอ” น้ำเสียงอันแสนคุ้นเคยจากข้างหลังทำให้หญิงสาวต้องหันกลับไปมองและรู้สึกประหลาดใจกับเจ้าของเสียงตรงหน้า “ลม ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
ชายหนุ่มร่างสูง ผมสีดำสั้น มองมาที่หญิงสาวด้วยดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่ดูอ่อนโยน ริมฝีปากมีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่ เขาสวมเสื้อแขนยาวสีขาวบวกกับกางเกงขายาวสีดำที่แทบไม่ปรากฏรอยยับให้เห็น ราวกับชุดทำงานมากกว่าที่จะมาใส่ในสถานที่พักผ่อนแห่งนี้ “กว่าจะหาเธอเจอนี่กินเวลาพอดูเลยล่ะ ฟ้า”
หญิงสาวยังคงตกตะลึงกับเพื่อนเก่าที่ยืนอยู่เบื้องหน้า จึงพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมสติ แล้วถามกลับไป “อย่าบอกนะว่านาย...แอบสะกดรอยตามชั้นมาเหรอ”
“ก็ไม่เชิงนะ ถ้าดูจากที่เธอเช็คอินไว้” คำพูดของลมทำให้เธอตระหนักได้และนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า ขณะที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จไปหมาดๆ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดเข้าไปในหน้าโซเชียลมีเดีย และโพสต์ไว้ว่า ‘check in @chonburi’
“แต่ว่า... แค่นั้นจะไปรู้ได้ยังไงกัน ว่าชั้นอยู่ที่นี่” ฟ้ายังไม่คลายความสงสัย
“อืม....” ลมนิ่งไปพักหนึ่ง “อำเภอนี้มีโรงแรมที่ขึ้นชื่ออยู่ 7 แห่ง มีอยู่ 4 แห่งที่อยู่ติดทะเลและอย่างเธอคงไม่ชอบเล่นน้ำเท่าไหร่ จึงตัดพวกนั้นออกไปก่อน ที่เหลือเดายากพอดู เพราะเธอไม่มีปัญหาเรื่องเงินเท่าไหร่นี่นะ แต่ดูจากนิสัยเธอแล้ว คงจะเลือกที่พักขนาดเล็ก ไม่เรียบหรูและมีบรรยากาศสงบมากกว่า เพราะงั้นชั้นเลยลองเสี่ยงมาที่นี่ดูไงล่ะ” เขาตอบกลับหญิงสาวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ฟ้าเพียงแค่พยักหน้าตอบ เธอไม่พูดอะไรต่อและยกถ้วยกาแฟเข้าใกล้ริมฝีปากสีชมพูอีกครั้ง
“เธอหนีนัดดูตัวมาใช่ไหมล่ะ” คำพูดเมื่อครู่ทำให้ฟ้าหยุดมือ พลันส่งสายตาดุกลับไป ราวกับจะตะโกนออกมาว่า ‘นายชักจะจุ้นจ้านกับชีวิตชั้นมากไปแล้วนะ แล้วนายไปรู้เรื่องนี้มาได้ยังไงกัน’ แต่เขาก็ไม่หวั่นไหนแม้แต่น้อย “ชั้นรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอหมดน่ะแหล่ะ”
สีหน้าของฟ้ากลับมานิ่งเฉยดังเดิม ก่อนที่จะพูดเปลี่ยนประเด็น “อืม ฉันกับนายไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว เอาเป็นว่าคืนนี้เรามาคุยกันดีกว่า” เธอวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะอีกครั้ง “แต่ว่านายต้องเลี้ยงฉันนะ”
“ได้เลย ไว้เจอกันที่บาร์ประกายดาวนะ ประมาณซักสามทุ่มครึ่งละกัน”
---------------------------------------------------------------------------
สามทุ่มยี่สิบห้านาที บาร์แบบเปิดโล่งชื่อ ประกายดาว เปิดทำการตามปกติ ลักษณะร้านถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แม้จะไม่หรูหรา แต่ก็เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์กันได้อย่างดี เพลงป๊อปที่เพิ่งออกใหม่ล่าสุดเปิดคลอเบาๆท่ามกลางผู้คนที่มีอยู่ประปราย มีชายหญิงคู่หนึ่งนั่งบนเก้าอี้ไม้สูงติดกับเคาน์เตอร์ไม้ยาว ณ ใจกลางร้าน
ฟ้าสั่งไวน์แดงของขึ้นชื่อของร้านนี้มา ขณะที่ลมสั่งน้ำเปล่าไปแค่หนึ่งขวดเท่านั้น “นี่เธอดื่มของแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย”
“เอาน่า มีโอกาสเลี้ยงฉันทั้งที สั่งของแบบนี้จะเป็นไรไป” มุมปากของเธอเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น ดูท่าว่าเจ้าภาพงานเลี้ยงขนาดเล็กครั้งนี้คงได้กระเป๋าฉีกกันบ้างล่ะ
ฟ้ารินไวน์ชั้นดีใส่แก้วทรงสูงอย่างช้าๆ แล้ววางขวดไวน์สีดำสนิทลง ก่อนยกแก้วที่มีของเหลวแดงเข้มอยู่ครึ่งแก้วขึ้นมาจิบ พลันสบตาชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ สีหน้าของเขาดูปกติดี แต่ด้วยความที่รู้จักกันมานานทำให้ฟ้าอ่านใจเขาออก
“ถ้าเธอมีเรื่องอยากจะถาม ก็พูดมาก่อนเลย”
ลมไม่พูดพล่ามทำเพลง ยิงประเด็นคำถามที่ค้างคาเมื่อตอนกลางวันกลับมา “ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้นัดดูตัวไว้เองสินะหรือว่า…”
“ใช่แล้วล่ะ ฝีมือแม่ฉันเอง”
ท่าทีของลมไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่ราวกับว่านั่นเป็นคำตอบที่เขาคาดไว้ “แม่คงเป็นห่วงฉัน เห็นเป็นคนเงียบๆอย่างนี้คงไม่ไปถึงไหนซักที เลยจัดการตามใจของท่านเองเลย”
“เอาน่า แม่ของเธอออกจะร่าเริงขนาดนั้นนี่นะ”
“นั่นล่ะ แม่มักจะทำหน้าประมาณนี้แล้วพูดว่า ‘แม่รู้ว่าลูกพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่ถ้าลูกยังเป็นสาวขี้อาย ไม่ค่อยพูดกับใครแบบนี้ ลูกคงจะรู้สึกโดดเดี่ยวมากแน่ เพราะงั้นแม่เตรียมนัดพิเศษไว้ให้แล้ว ลูกจะต้องชอบมันแน่’ ” ฟ้าแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย ทำแววตาเปล่งประกายประกอบกับคำพูดเมื่อกี้จนทำให้ลมอดที่จะอมยิ้มไม่ได้
“แล้วเธอคิดยังไงบ้างล่ะเกี่ยวกับเรื่องนัดดูตัวนั่น”
“ฉันไม่สนใจเท่าไหร่ เลยไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรมากนัก แม้แต่ชื่อของเขาฉันยังไม่รู้เลย”
พอลมทำท่าจะพูดต่อ นิ้วชี้เรียวยาวของหญิงสาวมาประทับริมฝีปากของเขา เธอหรี่ตาลงเล็กน้อยและยิ้มบางๆ “อ๊ะ หมดคำถามแค่นั้นล่ะพ่อหนุ่ม คราวนี้ถึงตาฉันพูดบ้างล่ะนะ”
“ฉันว่าเรามาพูดเรื่องเก่าๆกันดีกว่า พวกเราเจอกันตอนม.1เทอมสองใช่ไหม””
“อา 14 ปีได้แล้วสินะ” ลมหวนรำลึกถึงความหลัง “นั่นผ่านมาเร็วมากเลยนะ”
“นั่นสินะ ถ้าจำไม่ผิดตลอดช่วงมัธยม นายอกหักถึง 12 ครั้งเลยนี่นา”
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปราวกับว่ากินของแสลงเข้าไป “อึก ระ...เรื่องนั้นมัน”
“ฉันพูดผิดอะไรไปเหรอ อีกอย่างคนที่ต้องมาปลอบใจอยู่เรื่อยน่ะ คือฉันไม่ใช่หรอ”
ลมทำหน้าสำนึกผิดเล็กน้อยก่อนที่จะเบี่ยงไปประเด็นอื่นแทน “อา ช่างเถอะ เรามาคุยกันเรื่องอื่นดีกว่านะ เอาเป็นว่า...ชีวิตมหาลัยเป็นไงบ้าง”
“อืม หัวข้อน่าสนใจดีนี่”
“ถ้างั้นเชิญคุณผู้หญิงเริ่มก่อนเลย”
ทั้งสองคนพูดคุยเรื่องราวชีวิตแต่ละฝ่ายอย่างออกรส แม้ว่าบทสนทนาส่วนใหญ่ชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายพูดก็ตาม เวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งลมเห็นว่าฟ้าเริ่มเงียบไป เขาพึ่งสังเกตเห็นใบหน้าเธอที่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เจ้าไวน์ตัวการลดลงไปได้แค่ครึ่งขวด
“เธอไหวไหมเนี่ย”
ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เธอได้แต่ก้มหน้าลง จ้องมองลวดลายของเคาน์เตอร์ไม้ ปล่อยให้เขาต้องครุ่นคิดว่าจะพูดอะไรออกไปอีกดี
“ขอบใจมากนะ” เสียงแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากปากเล็กๆของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มต้องประหลาดใจ
“ตั้งแต่เด็กๆแล้วที่ชั้นเป็นคนขี้อายแถมยังพูดไม่เก่ง เลยเข้าหาใครไม่ค่อยได้ คนรอบข้างพากันมองฉันราวกับตัวประหลาดที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ทั้งที่จริงๆแล้ว ฉันอยากจะตอบกลับไป แต่ว่า....แม้แต่ความกล้าที่จะพูดออกไปก็ไม่มีเลยซักนิด” เธอหยุดถึงตรงนี้ แล้วเงยหน้าขึ้นมา จ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอันเปล่งประกายของเขา “มีแค่เธอที่เดินเข้ามาหาชั้น พูดคุย ถามไถ่เรื่องราวของกันและกัน ได้หัวเราะไปด้วยกัน เป็นเพื่อนกับเด็กหญิงขี้อายคนนี้ มันทำให้ชั้นเปลี่ยนไปทีละน้อย ชั้นกล้าพูดกับคนอื่นได้มากขึ้น เข้ากับคนรอบตัวได้ดีขึ้น ชั้นไม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวอีกต่อไป นั่นทำให้ชั้นดีใจมาก จริงๆนะ” ดวงตากลมโตเริ่มปริ่มไปด้วยน้ำตา เธอใช้นิ้วเช็คของเหลวสีใสที่ขอบตา พลางยิ้มอย่างสดใส
ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้าง เขาแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ดื่มด่ำไปกับทะเลดาวที่เปล่งแสงระยิบระยับสักพักหนึ่ง แล้วหันไปหาเธอ “ชั้นว่า..”
ทว่าหญิงสาวกลับฟุ่บลงไปกับเคาน์เตอร์ยาว ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาที่ตอบเขากลับมา
‘อ่าว หลับไปซะงั้น’
ลมตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอะไรต่อไปดี จะปล่อยให้หลับตรงนี้หรือว่า...
‘แต่จะว่าไปหน้าตาตอนหลับนี่ก็น่ารักไปอีกแบบแฮะ’
เขาพยายามสะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป ทางเลือกมันมีอยู่อย่างเดียวนี่นะ ว่าแล้วเขาก็จ่ายเงินค่าเครื่องดื่มให้เรียบร้อย ยกแขนหญิงสาวพาดบ่า แล้วพากลับไปที่ห้องของเธอ
ระยะทางระหว่างบาร์กับห้องพักอยู่ไกลเอาเรื่องบวกกับน้ำหนักตัวหญิงสาวที่เขาคาดการณ์ผิดไปถนัดทำให้แผ่นหลังของลมชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“อืม... ดื่มไม่ไหวแล้ว” เธองึมงำออกมา
ลมได้แต่คิดในใจ ‘ไม่ไหวเล้ย ยัยนี่’ เขาออกแรงลากขาตัวเองไปข้างหน้าด้วยกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ จนมาถึงหน้าประตูห้อง 425 ในที่สุด
“เฮ้ ตื่นๆ” เขาใช้มือเขย่าบ่าของเธอเบาๆ ฟ้าตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้างัวเงียและหาวอ้าปากกว้างอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะล้วงหยิบบัตรออกมาจากกระเป๋า
เธอเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า แล้วหันกลับมาปิดประตูอย่างเชื่องช้า
“ชั้นพาเธอมาส่งได้แค่นี้ล่ะ ฝันดีนะ”
“อืม ฝันดีนะ ไว้เจอกัน”
หลังจากเธอไปพักร้อน ก็กลับมาจัดการงานที่ค้างคาไว้จนหมด และแล้ววันนัดดูตัว (ที่ถูกเลื่อนมาเป็น 3 อาทิตย์ให้หลัง)ก็มาถึง
“ลูกดูดีมากเลยล่ะ” หญิงผู้เป็นแม่เอ่ยชมลูกสาว
ฟ้าใส่ชุดเดรสสีฟ้าอ่อน ชายกระโปรงยาวเลยหัวเข่า เผ้าผมถูกรวบมัดไว้อย่างพิถีพิถัน ส่วนที่แตกต่างออกไปคือใบหน้าที่แสดงออกถึงความประหม่าอย่างเห็นได้ชัด “แม่คะ หนูคิดว่า...”
“ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ไปกันเถอะ” แม่ของฟ้าพูดตัดบท ก่อนที่จะหันหลังกลับแล้วเดินนำหน้าไป ฟ้าได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินตามหลังไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
เธอเดินขึ้นมาขนาบข้างแม่ “แม่ยังไม่ได้บอกหนูเลยนะว่า คนที่เราจะเจอในวันนี้เป็นใคร”
“ลูกไม่ต้องห่วงไป แม่อยากจะเซอร์ไพรส์ลูกเท่านั้นเอง อีกอย่างเขาไม่ใช่คนเลวร้าวอะไรหรอกนะแถมยังออกปากเรื่องนัดนี่เองด้วย คิดว่าคงเข้ากันกับลูกได้ดีแน่” แม่ของเธอยิ้ม
‘เฮ้อ เดาความคิดของแม่ไม่ออกเลย ใครกันนะที่มาคุยกับแม่ แล้วยังยอมรับกันด้วย อีกอย่างบ้านเราเองก็ไม่ได้มีฐานะอะไรมาก ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะเป็นคนไกลตัว ใครกันแน่นะ’
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง” เสียงทักทายคุ้นหูดังขึ้นมาเบื้องหน้าของหญิงสาว
ชายที่อยู่ตรงหน้าสวมเสื้อขาวมีปก กางเกงขาวยาวสีดำ รูปร่างสูง ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองมาที่เธอด้วยแววตาอันอบอุ่นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆประดับบนใบหน้า เขาคือลม เพื่อนเก่าที่เพิ่งเจอกันไม่นานมานี้
ทันทีที่ฟ้าเห็นเพื่อนสนิท เธอยิ้มและพึมพำออกมาเบาๆ “ตาบ้า”
หญิงสาวเดินตรงไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ สีหน้าดูสดใสขึ้นราวกับว่าคนที่เธอค้นหามานานได้ปรากฏอยู่ตรงหน้านั่นเอง
ผลงานอื่นๆ ของ TheAdapter ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ TheAdapter
ความคิดเห็น